พยานบุคคล
พระอาจารย์คำโพธิ์ ธนาคโม
(หลวงพ่อต้อย)
ผู้เทกระโถนขี้กระโถนเยี่ยวให้หลวงพ่อทูล
1.ประวัติ
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2501 บิดาชื่อ นายลน มารดา ชื่อ นางเปลี่ยน นามสกุล โคตรโพนสูง เกิดที่บ้าน หนองเดิ่น อ.เมยวดี (เดิมเป็น อ.โพนทอง) จ.ร้อยเอ็ด มีพี่น้อง 8 คน ท่านเป็นคนที่ 7 พอท่านคลอดออกมาไม่นาน ครอบครัวก็อพยพถิ่นฐานขึ้นไปบ้านหนองเสา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย
ท่านเป็นเด็กตัวเล็ก แต่ใจใหญ่ เป็นเด็กฉลาด เรียนรู้เร็ว ตอนเด็ก ท่านชอบใส่บาตรทุกวัน ชอบวัดและรับใช้ดูแลหลวงปู่ ท่านเคยไปวัดแล้วพระให้ท่านรับศีลห้า ท่านมีความภาคภูมิใจมาก ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ทำไร่
2.จุดหักเหหรือจุดเปลี่ยน ทำไมถึงมาบวช หรือได้อุบายธรรมอะไร
ช่วงอายุ 22 ปี คิดจะมีครอบครัว แต่ประเพณีนิยมของชาวบ้านให้บวชก่อนมีครอบครัว ท่านจึงไปขอบวชกับหลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ ซึ่งหลวงพ่อได้มาสร้างวัดอยู่ที่บ้านหนองเสา ซึ่งเป็นที่รกร้าง และน่ากลัวไม่มีใครกล้าเข้าไปบริเวณนั้น เพราะเล่ากันว่าผีดุมาก ท่านกับเพื่อน ๆ จึงชวนกันมาบวชทั้งหมด 8 คน ท่านเป็นหัวหน้าหมู่เพื่อน บวชได้หนึ่งพรรษา จึงสึกออกมา แต่ไม่ได้ไปแต่งงานอย่างที่ตั้งใจ แล้วท่านก็กลับมาบวชอีกครั้งกับหลวงพ่อทูล
บวชครั้งแรก ปี 2523 บวชกับเพื่อนๆ หมู่เดียวกัน 9 คน มาอยู่ที่วัดสันติอุดมธรรม บ้านหนองเสา อ.พญาเม็งราย กับหลวงพ่อทูล ท่านเป็นชอบทำอะไรแปลกหมู่ ชอบท้าทายหมู่
ท่านมาบวชอีกครั้ง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2524 อายุ 24 ปี ที่วัดพญาเม็งรายมหาราช โดยมีพระครูศีลคุณากร (จันทร์) เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อทูล ขิปฺปปญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ บวชมาอยู่ศึกษาเล่าเรียนที่วัดสันติอุดมธรรม บ้านหนองเสา
ในช่วงที่บวชครั้งแรก ได้ยินหลวงพ่อทูล พูดว่า ถ้าบวชแล้วไม่ภาวนา เดินจงกรม ตายจะไปเป็นควายตู้ ท่านเคยเห็นควายไถนา แล้วถูกชาวนาบังคับและเอาค้อนทุบ ท่านเกิดความกลัวและความสงสาร ใจท่านตกไปตาตุ่ม กลัวมาก จึงเร่งภาวนา นั่งสมาธิ เดินจงกรม พิจารณา
หลายครั้ง พอท่านรู้สึกว่ากลัว ท่านก็จะวิ่งไปหาหลวงพ่อทูล ซึ่งอยู่ในศาลา ก็จะโดนดุว่า อะไรมันจะกินหัวอีก ไล่ให้กลับไปภาวนา เดินจงกรมต่อ
บวชและอยู่ที่วัดหนองเสาได้ 1 พรรษา หลวงพ่อทูล ก็คิดจะย้ายกลับมาอยู่อีสาน ประกอบกับชาวบ้านพูดไม่ดี พูดท้าทายและไม่ให้ความร่วมมือ หลวงพ่อทูลจึงออกจากบ้านหนองเสา หลวงพ่อต้อยก็ตามมาด้วย แล้วกลับมาอุดรธานี
3.บวชแล้วมีอุบายหรือแนวทางอะไรที่ทำให้ดำรงอยู่ในเพศนักบวช จนจึงปัจจุบัน
หลวงพ่อทูลพาท่านทำงานก่อสร้าง แล้วสอนว่า ฝึกพิจารณาหาอุบายจากการทำงานมาสอนใจตนเอง เช่น ก่อสร้างกุฏิ ก็น้อมกุฏิมาเปรียบเทียบกับร่างกายของตนเอง
วันหนึ่ง หลวงพ่อต้อยนั่งทำงานติดฝ้าเพดานศาลา เห็นโครงหลังคา ก็เหมือนโครงกระดูก ถ้าไม่ปิดบังก็ไม่งามตา เหมือนกายเรา ถ้าไม่มีหนังห่อหุ้มก็ไม่น่าดู น่าเกลียด สติปัญญาพิจารณาจนจิตรวมเป็นหนึ่ง ขณะนั่งอยู่บนนั่งร้าน แล้วจิตเกิดความเบิกบานหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จนหมู่เพื่อนมาแซวเป็นอะไรทำไมยิ้มได้ทั้งวัน ท่านก็บอกว่าท่านไม่ได้ยิ้ม ท่านพูดแค่นั้น แต่ใจที่เบิกบานด้วยธรรม จากภายในแสดงออกมาภายนอกให้คนสัมผัสได้ ใจร่าเริงเบิกบานไปหลายวัน
4. ความประทับใจกับหลวงพ่อทูล
หลวงพ่อทูลสอนให้ท่านทำงานทุกอย่าง งานก่อสร้าง อุปัฏฐาก จัดบริขาร จัดเสนาสนะ ล้างกระโถนขี้กระโถนเยี่ยว สรงน้ำ และสอนเรื่องยาสมุนไพร
หลวงพ่อต้อยมีนิสัยใจร้อน ทำอะไรไม่ค่อยระวัง ใจนักเลง ทำอะไรเร็วและจะพลาดบ่อยๆ ทำงานแล้วคำนวณผิด หลวงพ่อทูลนั่งอยู่ในกุฏิก็จะรู้ว่าท่านคำนวณ และทำอะไรผิด หลายครั้งที่ท่านขึ้นไปทำศาลา อยู่บนนั่งร้าน เดินพลาด ตกลงมา แต่ท่านไม่เคยตกลงถึงพื้น หลวงพ่อทูลก็รีบออกมาจากกุฏิแล้วดุว่า ถ้าไม่ได้เรา ก็ตกลงมาตาย
ท่านจึงมั่นใจว่า ถ้ามีหลวงพ่อทูลอยู่ ท่านจะไม่เป็นอะไร และหลวงพ่อทูลก็ควบคุมการภาวนา ถ้าคิดอะไร คิดส่งออกข้างนอก ก็จะถูกหลวงพ่อทูลพูดดักคอ และห้ามปราบ หลวงพ่อทูลรู้วาระจิตของหลวงพ่อต้อย จึงว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อต้อยประทับใจว่าหลวงพ่อทูลดูแลท่านอย่างใกล้ชิด
5.ปฏิปทาข้อปฏิบัติหรือข้อธรรม ส่วนตัว
-อุบายสอนใจ เวลาคิดถึงพ่อแม่ ก็เอาลูกกบลูกเขียด แม่ออกลูกมา หมดหน้าที่ก็ทิ้งไปเลย มันก็อยู่ได้
-คิดเรื่องอยากมีบ้านมีรถมีเงินทอง คิดอยากจะสึก ก็ถามตนเองว่า พ่อแม่ก็เคยบอกว่าอยากมีบ้านมีรถมีเงินมีทอง เดี๋ยวนี้พ่อแม่ก็ยังไม่มีเลย แล้วเราจะหาได้หรือ คิดไปก็เห็นความยากลำบากและทุกข์ ก็เปลี่ยนความคิดได้
-เหตุที่จะสึก เพราะไปคิดว่าจะเอาบุญที่ไหนมาให้โยม พอหลวงพ่อทูลทราบก็พูดว่า นั้นมันกิเลสมันพูด มันเอาคำครูบาอาจารย์มาหลอกเราให้สึก
-เหตุที่หลวงพ่อต้อย ไม่ยอมพูดหรือสอนธรรมะ ท่านว่า ท่านอายครูบาอาจารย์ เกรงจะพูดผิด พูดไม่ตรงกับครูบาอาจารย์
-การภาวนาปฏิบัติ ท่านทำสมาธิจิตรวมเร็วมาก หลวงพ่อทูลเตือนบ่อยๆ ว่า จิตสงบเราไม่ช่วยนะ อย่าไปนั่งนาน ให้ไปทำงานและพิจารณา
-ท่านมีโอกาสได้ดูแลอุปัฏฐากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น เข้าไปต้อนรับ ขอถือบาตร ย่าม หลวงพ่อต้อยรู้จักการเข้าหาครูบาอาจารย์ ท่านจะพูดพร้อมพนมมือว่า ขอโอกาสครับ แล้วก็เอามือไปถือบาตร ย่าม ไม่ต้องรอให้ท่านอนุญาต พระบางรูปพูดขอโอกาส แล้วยังไม่หยิบสักที รอให้ท่านยกให้หรืออนุญาต ก็ไม่ได้รับของสักที
รายนามพระที่หลวงพ่อต้อยเคยอุปัฏฐาก
1.หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
2.หลวงปู่อุ่น ชาคโร วัดดอยบันไดสวรรค์ อ.หนองวัวซอ
3.หลวงปู่หวัน จุลบัณฑิโต ลูกศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดจุลบัณฑิตาราม จ.หนองบัวลำภู
4.หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล
ปัจจุบัน หลวงพ่อต้อยเมตตาเป็นประธานสงฆ์วัดป่าบ้านค้อ